[Fic B.A.P BANGXCHAN]
BAD (Love Is So BAD) ::: 13 Bad
กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=18
“อื้อ...อ๊าา~...”
ฮิมชานร้องเสียงกระเส่าด้วยความเสียวซ่าน ร่างขาวที่ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดรวบเอาไว้ด้วยเนคไทราคาแพง
และมีเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวเป็นอาภรณ์ปกคลุมเรือนร่างถูกจับให้นอนคว่ำหน้าลงกับเบาะนุ่มของโซฟา
ร่างกายที่อ่อนแรงเพราะฤทธิ์ยาขยับไปมาตามแรงส่งจากนิ้วเรียวยาวของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังที่กระแทกรัวนิ้วเข้าไปทางช่องทางอ่อนนุ่มที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงช้ำเพราะถูกเสียดสี
แต่จะโทษยงกุกคนเดียวก็ไม่ถูกซะทีเดียว
เพราะเด็กหนุ่มเองก็กระแทกสะโพกสวนกลับมาหาอีกฝ่าย อีกทั้งกล้ามเนื้อบริเวณช่องทางด้านหลังนั้นก็ยังขมิบเกร็งดูดกลืนนิ้วยาวแรงบ้างเบาบ้างตามแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะฤทธิ์ยาที่ถูกบังคับให้กลืนลงคอไปกำลังเริ่มออกฤทธิ์มากขึ้นจนฮิมชานเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้
ตอนนี้สัญชาติญาณและความต้องการทางร่างกายกำลังค่อยๆกลืนกินสติสัมปชัญญะของคนตัวขาวทีละเล็กทีละน้อย
บังยงกุกมองอาการตอบสนองของอีกฝ่ายด้วยสายตาหลงใหล
พลางยกยิ้มด้วยความพึงพอใจกับท่าทางร่านรักของฮิมชาน
ที่แม้มันจะเกิดขึ้นเพราะฤทธิ์ยาก็ตามที แต่หากมันทำให้ฮิมชานยอมอ้าขา
โก่งสะโพกรับสัมผัสของเอาอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้เขาก็พอใจแล้ว
“ยาของตาแก่ลีนั่นดีสมราคาคุยหรือเปล่า...หืม...”
ชายหนุ่มถามเสียงกลั้วหัวเราะ
นิ้วเรียวที่ขยับเข้าออกภายในช่องทางอ่อนนุ่มพลันหยุดเคลื่อนไหวไปเสียเฉยๆ
เช่นเดียวกับมืออีกข้างที่ยังว่างก็จับยึดเข้าที่สะโพกมนไว้แน่นไม่ให้เด็กหนุ่มได้ขยับโยกสะโพกตามแรงปรารถนาในร่างกาย
“ไม่รู้!!”
ฮิมชานตอบเสียงสั้นและห้วน โดยยังคงฟุบหน้าอยู่กับเบาะนุ่มอยู่อย่างนั้น
...เขาไม่อยากมองหน้า
ไม่อยากได้ยินแม้แต่เสียงของไอ้โรคจิตที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายของเขาอยู่ในตอนนี้...
“โอ๊ย!”
ฮิมชานเผลอร้องออกมาเสียงดังเมื่ออยู่ๆนิ้วเรียวที่ค้างอยู่ในช่องทางด้านหลังก็พลันกระแทกเข้ามาภายในร่างกายอย่างแรง
“พูดกับฉันให้มันดีๆแบบตอนพูดออดอ้อนยงฮวาไม่ได้หรือไง”
เสียงทุ้มกดต่ำด้วยความไม่พอใจเมื่อพูดถึงบุคคลที่ 3
มือหนาข้างที่ว่างเผลอบีบลงที่เนื้อสะโพกขาวจนมันเริ่มขึ้นสีแดง
“ไม่
มี ทาง!” ถึงจะรู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไงหากว่าเขายังคงทำตัวดื้อแบบนี้
แต่ครั้นจะให้ยอมโอนอ่อนทำตามทุกคำพูดของบังยงกุก แล้วต้องขัดคำกับรู้สึกของตัวเอง
ฮิมชานก็ไม่เอาเหมือนกัน
“หึ...”
สิ้นเสียงหัวเราะเบาๆในลำคอที่ไม่สามารถคาดเดาอารมณ์ได้ของบังยงกุก
นิ้วเรียวทั้งสามนิ้วที่เสียบคาไว้ด้านในช่องทางด้านหลังก็กระแทกแรงๆเข้าออกไม่ยั้งจนตัวฮิมชานสั่นคลอนไปตามแรงส่งจากมือหนา
“อ่ะ...โอ๊ย!...หยุด!!!...อ๊า!”
ฮิมชานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากการกระทำของชายหนุ่มที่ยังคงกดย้ำปลายนิ้วทั้งสามเข้ามาอย่างไม่ออมมือ
แม้ว่าทุกครั้งที่ปลายนิ้วโดนจุดกระสันภายในร่างกาย
แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ฮิมชานรู้สึกดีเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามมันทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บ...เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ
“จะให้หยุดทั้งๆที่ตรงนี้ของเธอดูดนิ้วฉันเข้าไปน่ะเหรอ...แน่ใจเหรอ?”
บังยงกุกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ดูอารมณ์ดีเสียเต็มประดา
พร้อมกับผ่อนความเร็วเข้าออกของนิ้วมือลง
หากแต่ยังคงขยับกระแทกเข้าไปหนักหน่วงเหมือนเดิม
“อ่ะ...ผม
ไม่จำเป็น...อื้อ!! ต้องพึ่งคุณ!” คนตัวขาวเอ่ย
พลางขยับมือทั้งสองข้างที่ถูกมัดติดกันให้มาอยู่ในตำแหน่งของแกนกลางลำตัวที่เริ่มมีน้ำสีขุ่นไหลออกมา
เสียงหวานครางออกมาเบาๆเมื่อมือขาวทั้งสองข้างเริ่มกำรอบที่ท่อนเนื้อซึ่งเป็นจุดรวมความรู้สึก
พลางสาวรูดขึ้นลงตามความยาวเร็วๆเพื่อปลดปล่อยความต้องการภายในร่างกายของตัวเอง
ดวงตาคู่สวยที่ปรือปรอยเพราะอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆหลับพริ้มลง
...วินาทีนี้ฮิมชานขอไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น
แค่ให้เขาได้ระบายความต้องการทางร่างกายที่เขาไม่ได้เป็นคนก่อขึ้นมาให้มันจบๆไปก็พอ...
บังยงกุกมองการกระทำของอีกฝ่ายพลางขบสันกรามแน่นด้วยความไม่พอใจกับท่าทางอวดดีที่ฮิมชานกำลังทำอยู่ตอนนี้
ชายหนุ่มกระชากนิ้วของตัวเองออกมาจากช่องทางด้านหลังอย่างแรงจนรู้สึกได้ถึงแรงกระตุกเกร็งด้วยความเจ็บปวดของอีกฝ่าย
แต่นาทีนี้...ใครจะไปสนใจกันล่ะ
บังยงกุกจับคนตัวขาวที่ตอนนี้ร่างกายอ่อนแรงจนแทบไม่มีแรงขัดขืนให้พลิกตัวมาเผชิญหน้ากัน
มือขาวที่ถูกมัดรวบติดกันเอาไว้ถูกจับยกขึ้นเหนือศีรษะ
ก่อนที่บังยงกุกจะแทรกขาข้างหนึ่งเข้าไประหว่างขาขาวที่ไร้อาภรณ์ปกคลุมของอีกฝ่าย
“อ๊า...อย่า...”
ฮิมชานร้องห้ามด้วยเสียงแผ่วคล้ายคนใกล้หมดแรง
เมื่ออีกฝ่ายกดหัวเข่าลงบนส่วนกลางลำตัวที่กำลังตั้งชันและเริ่มมีน้ำสีขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมา...ถึงแรงกดจะไม่ได้รุนแรงจนทำให้เจ็บแต่มันก็ทำให้ฮิมชานทรมานเพราะความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไมล่ะ...ตรงนี้ของเธอมันแฉะหมดแล้วนะ
หึๆๆ” ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาพูดชิดใบหูขาว
พูดจบก็ขบฟันคมเข้าที่ใบหูของเด็กหนุ่มเบาๆเหมือนแกล้งให้ฮิมชานยิ่งรู้สึกมากขึ้น
“อ๊ะ! ออกไป...เอามือออกไป!”
คนตัวขาวเปล่งเสียงตวาดชายหนุ่มที่ใช้มือข้างที่ยังว่างกดย้ำหนักๆลงที่ส่วนปลายแกนกายที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำขุ่นขาวของฮิมชาน
ร่างกายขาวบิดเร่าไปมาตามแรงปลุกเร้าอารมณ์จากมือหนา
ยิ่งยงกุกรูดสาวมือขึ้นลงตามความยาวของท่อนเนื้อที่เป็นศูนย์รวมความรู้สึก
รอยยิ้มที่ดูสนุกสนานของยงกุกเมื่อเห็นอาการทรมานเพราะแรงอารมณ์ที่มีแต่จะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
มือหนายิ่งเพิ่มความแรงและขยับขึ้นลงเร็วมากขึ้นเรื่อยๆจนฮิมชานหวีดร้องครางเสียงดังด้วยความทรมานปนความสุขที่ฮิมชานไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้นเลย
“อ๊า!! เร็วๆ อื้อ!!”
ยงกุกยกยิ้มด้วยความพอใจเมื่อในที่สุดฮิมชานก็ยอมแพ้ต่อฤทธิ์ยาและจิตใต้สำนึกของตัวเอง
ชายหนุ่มมองเรือนร่างขาวบิดเร่าๆด้วยความเสียวซ่านจากสัมผัสหนักๆจากมือหนาที่ยังคงสาวรูดที่ท่อนเนื้อสีสด
มือหนาอีกข้างก็ยังคงจับล็อคข้อมือขาวทั้งสองข้างอยู่เหนือศีรษะของฮิมชานไว้อย่างนั้น
“อ๊ะ!! อ๊า!!...”
ร่างขาวเกร็งขึงไปทุกสัดส่วนเมื่อใกล้ถึงสุดปลายทางของความต้องการในร่างกายเสียที
แต่แล้ว...ความรู้สึกล่องลอยราวกับกำลังจะได้ขึ้นสวรรค์กลับหยุดลง
พร้อมกับการหยุดลงของแรงขยับขึ้นลงจากมือหนา ทุกอย่างหยุดนิ่งลงกระทันหันจนฮิมชานรู้สึกเหมือนถูกฉุดให้ตกลงมาจากที่สูง
ดวงตาคู่สวยที่คลอด้วยหยดน้ำตาเปิดขึ้นมามองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความแปลกใจ
เพราะนอกจากแรงขยับที่ส่วนกลางลำตัวของเขาจะหายไปแล้ว
แรงกดที่ข้อมือทั้งสองข้างก็คลายออกไปด้วยเช่นกัน
ภาพรอยยิ้มขำขันจากบังยงกุกปรากฏต่อสายตาของฮิมชานที่ยังคงไม่เข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
มือหนาข้างที่เคยจับยึดข้อมือของฮิมชานเอาไว้ยกขึ้นลูบที่ข้างแก้มที่เป็นสีแดงระเรื่อเบาๆราวกับคนตัวขาวเป็นตุ๊กตากระเบื้องที่เปราะบาง
และสามารถแตกสลายไปได้ทุกเวลา...
“ทรมานมากมั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน
ดวงตาคมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสวยที่มีน้ำตาคลอเอ่อ
ฮิมชานไม่รู้ว่าเป็นเพราะอาการมึนงงจากฤทธิ์ยาหรือเพราะอะไรก็ตาม
แต่รู้ตัวอีกทีเด็กหนุ่มก็เผลอดพยักหน้าน้อยๆเป็นคำตอบให้อีกฝ่าย
แถมยังเอียงแก้มรับสัมผัสจากมือหนาเหมือนลูกแมวที่กำลังออดอ้อนขอความรักจากเจ้านายเสียแล้ว...
แต่แล้วอยู่ๆรอยยิ้มอ่อนโยนของบังยงกุกนั้นก็พลันหายไป
และปรากฏรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของปีศาจร้ายขึ้นมาแทนที่
“พอดีฉันว่าจะลงไปดูความเรียบร้อยของงานข้างล่างซักหน่อยน่ะ...”
บังยงกุกก้มลงมากระซิบบอกเจือเสียงหัวเราะเบาๆที่ข้างหูของเด็กหนุ่ม
ซึ่งสิ่งที่ได้ยินเป็นเหมือนกับไม้หน้าสามที่ตีเข้าที่ใบหน้าของฮิมชานอย่างแรงจนเด็กหนุ่มทั้งรู้สึกเจ็บและชาไปทั้งใบหน้า
...บังยงกุกเห็นเขาเป็นตัวอะไร
ถึงมาเล่นสนุกกับร่างกายเขาแบบนี้...
คนตัวขาวที่ยังนอนนิ่งอยู่ท่าเดิมหันหน้ามองตามชายหนุ่มที่ลุกออกไปจากตัวเขาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
แต่ที่แน่ๆในความรู้สึกมากมายที่ประดังเข้ามาในใจของฮิมชานนั้น ‘ความรู้สึกเกลียด’
มันเด่นชัดมากที่สุด
“อ้อ!
แล้วส่วน...ที่เหลือเธอก็จัดการเองไปก่อนแล้วกันนะ
ไว้ส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้วฉัน ‘อาจจะ’ ปลีกตัวออกมาหา หึๆๆ” บังยงกุกเอ่ยขณะยืนจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย
เพื่อกลับลงไปที่งานเลี้ยงตามที่บอกไว้
ดวงตาสวยจ้องมองคนพูดอย่างไม่เชื่อหูว่าจะได้ยินคำพูดเหล่านี้หลุดออกมาจากปากของบังยงกุก...ไม่ใช่ว่าฮิมชานไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีนิสัยเป็นอย่างไร
แต่เด็กหนุ่มไม่คิดว่าร่างสูงจะทำแบบนี้กับเขา
...เขาไม่ใช่ตุ๊กตาที่เอาไว้สนองความต้องการของใครนะ!!!...
“คุณมันเลว...”
เสียงหวานที่เอ่ยลอดออกมาจากไรฟันแม้จะแผ่วเบาเพียงใด
แต่ฮิมชานรู้ว่าอีกฝ่ายได้ยินมันแน่นอน
ฮิมชานรู้ว่าบางทีคำว่า
‘เลว’ อาจจะน้อยไปสำหรับบังยงกุก
แต่ในตอนนี้ความรู้สึกมากมายที่มันอึดอัดคับแน่นอยู่ในใจ
มันทำให้เด็กหนุ่มไม่รู้จะสรรหาคำพูดไหนมาด่าทออีกฝ่ายได้มากเท่าคำคำนี้อีกแล้ว
“หึ...ขอบคุณสำหรับคำชม”
เจ้าบ่าวเอ่ยสั้นๆ
พร้อมมอบรอยยิ้มกวนโมโหให้คนที่ยังนอนหอบหายใจเพราะฤทธิ์ยาอยู่บนโซฟา
ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=18
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น