[Fic B.A.P BANGXCHAN]
BAD (Love Is So BAD) ::: 10 Defiance
“อย่า....” เพราะเรี่ยวแรงยังไม่กลับมา จึงทำให้ฮิมชานทำได้เพียงร้องท้วงพลางขยับตัวหนีเมื่อบังยงกุกพยายามถอดกางเกง
และแม้ฮิมชานจะขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล
เมื่ออีกฝ่ายถอดทั้งกางเกงยีนส์และชั้นในให้หลุดออกจากร่างกายของเขาได้สำเร็จ
“อื้อ!!!”
ดวงตาคู่สวยปิดเข้าหากันแน่น พร้อมกับฟันคมที่กัดลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อกลั้นเสียงร้องด้วยความเจ็บแสบ
เมื่อบังยงกุกสอดใส่นิ้วเข้ามาในช่องทางของเขาอย่างกระทันหันทีเดียวสองนิ้ว
เพราะห่างจากเรื่องแบบนี้มา
2
สัปดาห์ทำให้ช่องทางด้านหลังของเขามันไม่คุ้นชินกับการสอดใส่เข้ามาอย่างกระทันหันโดยไม่มีสารหล่อลื่นแบบนี้
“โอ๊ย!
หยุด...”
ร้องห้ามพลางเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายที่กำลังกระทำกับช่องทางด้านหลังของเขาอย่างป่าเถื่อน
ความเจ็บแสบแล่นร้าวขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าเมื่อนิ้วเรียวนั้นเริ่มขยับเข้าออกโดยไม่สนใจว่าความฝืดเคืองเพราะไม่มีสารหล่อลื่นนั้นจะทำให้ฮิมชานเจ็บ
“โอ๊ย!!...คุณมัน...อึก...เลว!!”
เสียงร้องเพราะความเจ็บหลุดออกมาปะปนกับคำด่าที่ฮิมชานพยายามสรรหามาใช้
หวังจะให้อีกคนได้รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาบ้าง
แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างที่ฮิมชานคิด
“หึ...ฉันเลวได้มากกว่านี้อีก...เธอก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ”
ยงกุกส่งยิ้มเย็นให้อีกคน พร้อมมือหนาที่เร่งจังหวะขยับเร็วขึ้นแรงขึ้น
ทั้งยังเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปภายในร่างกายเบื้องล่างของฮิมชานเป็นสามนิ้ว
“อื้อ!!!”
แนวฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวด
พร้อมเกร็งจิกเล็บลงที่มือของยงกุกที่ยังคงขยับเข้าออกอย่างรุนแรงจนฮิมชานรู้สึกแสบไปหมด
“อ๊าาา!!”
คนตัวขาวร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็กระชากนิ้วออกจากร่างกายด้านล่างของเขา
เด็กหนุ่มหอบหายใจถี่เร็วราวกับวิ่งมาไกลหลายกิโลเมตร
...มัวมานอนแบบนี้ไม่ได้นะฮิมชาน
นายต้องรีบหนีออกไปให้ห่างจากผู้ชานคนนี้...
ฮิมชานบอกกับตัวเองก่อนจะใช้จังหวะที่ยงกุกผละออกจากร่างกายของเขารีบถดตัวหนีอีกฝ่าย
แต่มันช้าเกินไม่เมื่อมือหนาจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ทัน
ก่อนจะออกแรงลากเขาให้เข้ามาอยู่ใต้ร่างของอีกฝ่ายอีกครั้ง
ยงกุกเท้าแขนทั้งสองข้างลงกับพื้นห้อง เพื่อกักขังร่างของอีกฝ่ายไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้
“คิดว่าจะหนีไปไหนได้
กระโดดลงจากระเบียงหรือไง หึๆ” เสียงทุ้มว่าพลางหัวเราะในลำคอ
ใบหน้าหล่อคมเคลื่อนลงไปใกล้ใบหน้าขาวจนปลายจมูกทั้งสองคนชนกัน
หากแต่ฮิมชานกลับหันหน้าอีกฝ่ายราวกับรังเกียจกันมาก
“ถ้ามันจำเป็น
ผมก็จะกระโดดลงไป” ฮิมชานตอบเสียงสั้นห้วน เขาคิดแบบที่พูดจริงๆ
ตอนนี้เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อจะอยู่ให้ห่างจากบังยงกุก
“ไม่เอาน่า...กระโดดลงไปมีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ
แข้งขาหักไปไม่คุ้มหรอกนะ...” ยงกุกหยุดพูดเสียเฉยๆ พร้อมกับไซร้จมูกไปบนแก้มขาว
ก่อนจะส่งลิ้นออกมาไล้เลียแก้มนิ่มแล้วลากเรื่อยไปถึงใบหูขาว
ขบกัดใบหูของอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า
“...สู้เอากับฉันไม่ได้หรอก
ถึงจะเจ็บแต่ฉันรู้ว่าเธอชอบ” เสียงทุ้มกระซิบบอกอีกฝ่าย
ก่อนจะผละออกห่างเมื่อฮิมชานหันหน้ามามองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกับคำพูดของอีกฝ่าย
“คุณมันก็ไม่ต่างจากสัตว์หรอก...หึ
ไม่สิ คุณมันยิ่งกว่านั้นอีก...สัตว์มันยังมีช่วงเวลาผสมพันธุ์ ไม่เหมือน...”
เพี๊ยะ!!
เส้นด้ายบางๆความอดทนของบังยงกุกขาดผึงลง
พร้อมๆกับมือหนาที่ตวัดฟาดลงที่แก้มขาวจนใบหน้าของฮิมชานหันไปอีกทางตามแรงตบ
เลือดสีแดงสดไหลย้อยจากมุมปากที่บวมเจ่ออยู่แล้วจนถึงปลายคาง
ใบหน้าขาวนิ่งค้างอยู่แบบนั้น
ความเจ็บจนทำให้ผิวเนื้อเต้นตุบๆและร้อนผ่าวด้วยแรงตบที่รุนแรงเริ่มค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความชา
พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย
ฮิมชานตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่พอสมควร
บังยงกุกไม่เคยทำแบบนี้กับเขา ถึงเขาจะดื้อหรือพยศขนาดไหน
แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยตบตีเขามาก่อน
‘ของเล่นฆ่าเวลา’ ซักวันนึงก็ต้องถูกเขี่ยทิ้ง
...สงสัยวันนั้นมันคงใกล้จะมาถึงแล้วล่ะมั้ง
คิมฮิมชาน...
“อื้อออ!! ออกไป!” ฮิมชานสะบัดหน้าหนีด้วยความตกใจ
เมื่ออยู่ๆเรียวลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายก็สัมผัสที่ปลายคางที่มีเลือดติดอยู่ของเขาก่อนจะลากขึ้นมาจนถึงมุมปากที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงช้ำ
“ขัดขืนไปก็เท่านั้นแหละ...มาสนุกกันดีกว่า”
พูดจบมือหนาก็จับเขาที่สันกรามของอีกฝ่าย
ก่อนจะออกแรงบีบให้ฮิมชานยอมอ้าปากรับจูบของเขา
จูบที่รุนแรงถูกมอบให้โดยที่ฮิมชานไม่เต็มใจ
ทำให้แผลที่มุมปากยิ่งปริแตกมากขึ้นจนทุกครั้งที่กลืนน้ำลาย
ฮิมชานจะรับรู้ได้ถึงรสชาติคาวของเลือดทุกครั้งไป
เรียวลิ้นที่รุกรานเข้ามาในโพรงปากของฮิมชานอย่างเอาแต่ใจทำให้เขานึกอยากกัดมันให้อีกฝ่ายได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่เข้ารู้สึกบ้าง
แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันเพราะทันทีที่ฮิมชานคิดจะทำก็เป็นเวลาเดียวกับที่ยงกุกผละจูบออกพอดี
ยงกุกลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าแล้วจัดการปลดกระดุมและรูดซิบกางเกงของตัวเองลง
ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงฮิมชานให้ลุกขึ้นมานั่งจนใบหน้าขาวอยู่ระดับเดียวกับสิ่งบวมนูนที่ยังคงซ่อนอยู่ในชั้นในของเขาพอดี
ฮิมชานเงยหน้ามองคนที่มองกลับลงมาพร้อมส่งรอยยิ้มเย็นมาให้เขาด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและเกลียดชัง
...เกลียดที่บังยงกุกทำเหมือนเขาเป็นตุ๊กตาสนองตัณหา...
...และโกรธตัวเองที่ไม่สามารถต่อกรอะไรอีกฝ่ายได้เลย...
“เธอรู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ย”
ยงกุกว่าพลางเอื้อมมือข้างหนึ่งไปกดที่ท้ายทอยของฮิมชานเพื่อให้เคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้กับส่วนนั้นของเขามากขึ้น
แต่เด็กหนุ่มกลับขืนตัวเองเอาไว้ ดวงตาสวยมองกลับขึ้นไปด้วยสายตาแข็งกร้าว
“หึ...งั้นก็เอามันสดๆเลยเป็นไง!”
“อื้อ!!”
เรียวปากที่บวมช้ำและเกรอะกรังไปด้วยเลือดที่เริ่มแห้งติดผิวหนังเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงร้อง
เมื่อยงกุกทำอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ
ชายหนุ่มผลักฮิมชานลงนอนกับพื้น
ก่อนจะจับขาขาวทั้งสองข้างของเขาแยกออกกว้างจนสามารถมองเห็นช่องทางแคบที่ด้านหลังได้
แท่งเนื้อที่ขยายขนาดจนแข็งเป็นลำแทรกตัวเข้าไปภายในร่างกายของฮิมชานรวดเร็วจนคนตัวขาวเผลอเกร็งตัวทำให้ช่องทางนั้นบีบรัดแกนกายของบังยงกุกจนแทบจะขยับเข้าไปไม่ได้
“โอ๊ย!!”
เสียงร้องเพราะความเจ็บปวดที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหวเมื่อยงกุกดึงดันแทรกตัวเข้ามาจนสุดลำยาว
พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเพราะเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มตรงช่องทางนั้นฉีกขาด
ฮิมชานพยายามหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะปกติที่สุด
เพื่อผ่อนคลายร่างกายและลดความเจ็บปวดที่ร่างกายเบื้องล่าง
แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้ช่วงล่างของเขาเจ็บไปหมด
ถ้าไม่นับครั้งแรกที่เคยมีอะไรกัน
ครั้งนี้คงเป็นครั้งที่ฮิมชานรู้สึกเจ็บมากที่สุด
...เจ็บทั้งกาย
เจ็บทั้งใจ...
“หึ...เจ็บจนพูดไม่ออกเลยเหรอ...หรือว่าแกล้งสำออย...”
สิ้นน้ำเสียงที่ทั้งเหยียดหยามและไร้ความเห็นใจนั้น
บังยงกุกก็เริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆโดยไม่รอให้ฮิมชานได้ปรับตัวกับแกนกายที่เพิ่งแทรกตัวเข้ามา
ฟันคมขบกัดลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองอีกครั้งเพื่อกลั้นเสียงร้องไม่ให้หลุดลอดออกมา
ไม่ว่าเสียงนั้นจะเป็นเสียงร้องเพราะความเจ็บปวด
หรือเสียงครางเพราะความเสียวซ่านจากแรงเสียดสีของแท่งเนื้อร้อนนั้น
ฮิมชานก็ไม่ยอมให้บังยงกุกได้ยินเสียงใดๆทั้งนั้น
“อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ...อา...ครางหวานๆให้ฉันได้ยินหน่อย”
เสียงทุ้มเอ่ยพลางขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น
แรงขึ้นเหมือนแกล้งให้ฮิมชานต้องทำตามที่เขาบอก
“ไม่!!!”
เด็กหนุ่มตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบเม้มปากเน้นไม่ให้มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา
ฮิมชานกลั้นลมหายใจขาดเป็นห้วง
เพราะความเจ็บปวดที่แล่นริ้วจากสะโพกขึ้นมาถึงสันหลัง
เจ็บจนไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืน
...น่าสมเพชมั้ยล่ะ
เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แต่เขากลับไม่สามารถสู้อะไรบังยงกุกได้เลย...
บังยงกุกมองท่าทางของอีกฝ่ายด้วยแววตาเย้ยหยันกับความดื้อรั้นโง่ๆที่กำลังทำให้ตัวฮิมชานเองที่เป็นฝ่ายเจ็บตัว
จังหวะการเคลื่อนไหวของสะโพกสอบเปลี่ยนเป็นช้าลงแต่กลับหนักหน่วงมากขึ้น
เน้นย้ำทุกครั้งที่เคลื่อนสะโพกกระแทกเข้าไปภายในร่างกายของฮิมชาน
ซึ่งมันทำให้คนตัวขาวทรมานมากกว่าจะรู้สึกเสียวซ่าน
“ทำไม...จะเก็บเสียงไว้ร้องให้ไอ้ยงฮวาฟังหรือไง”
บังยงกุกยิ้มเย็นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่ตอบสนองกลับมา
ดวงตาคู่สวยตวัดมองเขาด้วยความไม่พอใจทันทีที่เขาเอ่ยอ้างถึงบุคคลที่สาม
“ฉันพูดไม่ผิดสินะ...หัดทำตัวร่านตั้งแต่เมื่อไหร่”
ทุกคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของบังยงกุกมันช่างเหยียดหยามน้ำใจจนฮิมชานอยากจะร้องไห้ออกมา
แต่เขารู้ว่าการทำแบบนั้นมันไม่สามารถเรียกร้องความเห็นใจจากอีกฝ่ายได้
กลับจะได้รับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยกลับมาแทนมากกว่า
“อื้อ!...”
ฮิมชานหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อบังยงกุกเร่งจังหวะเข้าออกเร็วขึ้น แรงขึ้นจนตัวของเขาโยกไม่มาตามแรงกระแทกกระทั้นที่ไร้ความปรานี
“เอากับมันมากี่ครั้งแล้วล่ะ”
มือหนาทั้งสองข้างยึดสะโพกขาวเอาไว้ พร้อมออกแรงกระแทกเข้าหาอีกฝ่ายจนสุดลำยาวโดยไม่ยี่หระกับเลือดที่ไหลออกมาจากตรงช่องทางเบื้องล่างนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ!!”
“ตอบ!
ฉันถามว่าเธอกับไอ้ยงฮวานั่นมีอะไรกันมากี่ครั้งแล้ว!”
ตะคอกถามเสียงดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบคำถาม
ทั้งยังหันหน้าหนีเขาจนยงกุกต้องเอื้อมมือหนาข้างหนึ่งไปบีบสันกรามของฮิมชานบังคับให้หันกลับมาสบตากัน
...หากแต่ฮิมชานเลือกที่จะเงียบ...
“หึ...คิดจะดื้อกับฉันใช่มั้ย”
เมื่อถูกขัดใจบังยงกุกจึงเร่งจังหวะโถมสะโพกเข้าหาสะโพกขาวให้เร็วมากขึ้นอีก แรงมากขึ้นอีกโดยไม่กลัวว่าฮิมชานจะขาดใจ
“โอ๊ยยย~”
คนตัวขาวร้องออกมาเสียงแผ่ว
แรงกระแทกรุนแรงทำให้ร่างขาวไหวไปมาตามแรงขยับจากช่วงร่างจนสั่นคลอนไปหมด
มือขาวกำเข้าหากันแน่นจนเล็บจิกลงไปบนเนื้อที่ฝ่ามือหวังจะระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่ร่างกายช่วงล่างได้บ้าง
เรียวปากบวมช้ำเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาให้อีกคนได้ยิน
น้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทและร่างกายที่เกร็งจะสั่นไปทั้งตัวบอกได้เป็นอย่างดีว่าฮิมชานทรมานกับการกระทำของอีกฝ่ายมากเพียงใด
...ทรมานทั้งร่างกายที่ถูกกระทำราวกับเขาไม่ใช่มนุษย์...
...ทรมานจิตใจที่ถูกอีกฝ่ายใช้คำพูดทั้งเหยียดหยามและดูแคลน...
เมื่อใกล้จะถึงสุดปลายทางของอารมณ์
มือหนาทั้งสองข้างบีบขยำเข้าที่สะโพกขาวจนเป็นรอยแดงตามแรงมือเพื่อระบายความเสี่ยวซ่านที่พุ่งทะยานมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วไม่นานการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง พร้อมกระตุกฉีดน้ำอุ่นร้อนเข้าไปภายในช่องทางของฮิมชานจนหมด
แต่แม้ว่าทุกอย่างจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว...บังยงกุกก็ยังคงเสียบคาแกนกายร้อนไว้อยู่อย่างเดิม
“ถ้าพอใจแล้วก็ออกไปจากตัวผมได้แล้ว”
ฮิมชานพูดพลางหอบหายใจแรง
มือขาวทั้งสองข้างยกขึ้นผลักไหล่ของคนที่กำลังโน้มตัวเข้ามาหาเขา
“ตอบคำถามของฉันมาก่อน”
ชายหนุ่มถามคำถามเดิม แต่น้ำเสียงไม่แข็งกระด้างเหมือนครั้งแรก
บังยงกุกซุกใบหน้าลงกับต้นคอขาวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ
เรียวปากหนากดจูบ
ขบเม้มสร้างรอยแดงไปบนทุกตารางนิ้วของผิวขาวที่ริมฝีปากของเขาลากผ่าน
“ไม่...อื้ออ~”
ฮิมชานตอบเสียงสั่นเครือ
เมื่อแนวฟันคมของชายหนุ่มขบกัดลงบนยอดอกของเขาผ่านเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ฮิมชานสวมใส่อยู่
“ไม่เอาน่า...ตอบหน่อย
ฉันอยากรู้” ยงกุกกระซิบถามทั้งที่ยังไม่เลิกเล่นสนุกกับเนินอกของเด็กหนุ่ม
พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนลงไปสัมผัสกับปลายยอดของส่วนอ่อนไหวของฮิมชานที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย
“ไม่...อา...หยุดทำบ้าๆ...อึก...ซักที!!”
เสียงครางหวิวหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อยงกุกเริ่มสาวรูดแกนกายของเขาอย่างช้าๆ
แต่หนักหน่วงจนฮิมชานแทบขาดใจ
ร่างขาวพยายามบิดตัวหนีสัมผัสของอีกฝ่าย
แต่กลายเป็นว่ายิ่งเขาเคลื่อนไหวร่างกายมากเท่าไหร่
ช่องทางด้านหลังของเขาก็ยิ่งเสียดสีกับแท่งเนื้อที่ยังคงเสียบคาอยู่อย่างนั้น จนฮิมชานรู้สึกว่ามันเริ่มขยายตัวและแข็งขึ้นมาอีกครั้ง
“ตอบมาฮิมชาน!
เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบรอ” มือหนาเปลี่ยนจากขยับขึ้นลงเป็นบีบแรงๆเข้าที่แกนกายของฮิมชาน
จนร่างขาวบิดเร่าด้วยความทรมาน
“ไม่...อื้อ!!”
“ไม่อะไร?”
“ไม่เคย...อื้อ...ไม่เคยแม้แต่ครั้ง
ดะ....อื้ออออ!!!”
เมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจ
ริมฝีปากสวยก็ถูกยงกุกประกบจูบลงมาอย่างรวดเร็วและเพราะไม่ทันตั้งตัวทำให้ฮิมชานเผลอรับเอาลิ้นชื้นที่แทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดภายในโพรงปากของเขาอย่างร้อนแรงจนฮิมชานแทบจะหลอมละลายไปกับจูบนั้น
“อ๊า...เจ็บ...อื้อออ~...พอ...”
มือหนาที่กำลังขยับสาวรูดขึ้นลงที่แกนกายของร่างขาว
พร้อมกับสะโพกที่ขยับเอาออกอยู่ที่ช่องทางเบื้องล่างอย่างรุนแรง
ทำให้ฮิมชานทั้งร้องห้ามและส่งเสียงครางด้วยความสุขสมดังสลับกันมั่วไปหมด
มือขาวยกขึ้นจิกลงบนลำคอของบังยงกุกที่ยังคงคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของเขาเพื่อระบายความเจ็บแสบที่ปะปนอยู่กับความซาบซ่านจนฮิมชานรู้สึกว่าทุกอย่างขาวโพลนไปหมด
การเคลื่อนไหวทั้งจากทางด้านหน้าและช่องทางด้านหลังที่เริ่มหนักหน่วงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อทั้งสองใกล้จะถึงจุดสูงสุดของอารมณ์
และไม่นานการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็สิ้นสุดลง
ทั้งห้องมีเพียงเสียงหอบครางของทั้งสองคนดังประสานกันอย่างไม่เป็นจังหวะ
บังยงกุกผละตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนแกนกายเสียดสีกับบาดแผลของช่องทางที่บวมแดงจนฮิมชานหลุดร้องครางออกมาเพราะความเจ็บแสบแล่นขึ้นมาเล่นงานเขา
อีกทั้งคราบน้ำสีขาวขุ่นมากมายที่ไหลออกมาก็มีสีแดงฉานของเลือดปะปนมากจนน่าตกใจ
กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=13