วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

[Fic B.A.P BANGXCHAN] BAD (Love Is So BAD) ::: 10

[Fic B.A.P BANGXCHAN]

BAD (Love Is So BAD) ::: 10 Defiance 



                “อย่า....” เพราะเรี่ยวแรงยังไม่กลับมา จึงทำให้ฮิมชานทำได้เพียงร้องท้วงพลางขยับตัวหนีเมื่อบังยงกุกพยายามถอดกางเกง และแม้ฮิมชานจะขัดขืนเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล เมื่ออีกฝ่ายถอดทั้งกางเกงยีนส์และชั้นในให้หลุดออกจากร่างกายของเขาได้สำเร็จ


                  “อื้อ!!!”​ ดวงตาคู่สวยปิดเข้าหากันแน่น พร้อมกับฟันคมที่กัดลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อกลั้นเสียงร้องด้วยความเจ็บแสบ เมื่อบังยงกุกสอดใส่นิ้วเข้ามาในช่องทางของเขาอย่างกระทันหันทีเดียวสองนิ้ว

                  เพราะห่างจากเรื่องแบบนี้มา 2 สัปดาห์ทำให้ช่องทางด้านหลังของเขามันไม่คุ้นชินกับการสอดใส่เข้ามาอย่างกระทันหันโดยไม่มีสารหล่อลื่นแบบนี้


                  “โอ๊ย! หยุด...” ร้องห้ามพลางเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายที่กำลังกระทำกับช่องทางด้านหลังของเขาอย่างป่าเถื่อน

                  ความเจ็บแสบแล่นร้าวขึ้นมาตั้งแต่ปลายเท้าเมื่อนิ้วเรียวนั้นเริ่มขยับเข้าออกโดยไม่สนใจว่าความฝืดเคืองเพราะไม่มีสารหล่อลื่นนั้นจะทำให้ฮิมชานเจ็บ

                 
                  “โอ๊ย!!...คุณมัน...อึก...เลว!!” เสียงร้องเพราะความเจ็บหลุดออกมาปะปนกับคำด่าที่ฮิมชานพยายามสรรหามาใช้ หวังจะให้อีกคนได้รู้สึกเจ็บใจขึ้นมาบ้าง แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นอย่างที่ฮิมชานคิด

                  “หึ...ฉันเลวได้มากกว่านี้อีก...เธอก็น่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ” ยงกุกส่งยิ้มเย็นให้อีกคน พร้อมมือหนาที่เร่งจังหวะขยับเร็วขึ้นแรงขึ้น ทั้งยังเพิ่มจำนวนนิ้วเข้าไปภายในร่างกายเบื้องล่างของฮิมชานเป็นสามนิ้ว


                  “อื้อ!!!” แนวฟันคมขบลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวด พร้อมเกร็งจิกเล็บลงที่มือของยงกุกที่ยังคงขยับเข้าออกอย่างรุนแรงจนฮิมชานรู้สึกแสบไปหมด

                  “อ๊าาา!!” คนตัวขาวร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆอีกฝ่ายก็กระชากนิ้วออกจากร่างกายด้านล่างของเขา เด็กหนุ่มหอบหายใจถี่เร็วราวกับวิ่งมาไกลหลายกิโลเมตร



                  ...มัวมานอนแบบนี้ไม่ได้นะฮิมชาน นายต้องรีบหนีออกไปให้ห่างจากผู้ชานคนนี้...


                  ฮิมชานบอกกับตัวเองก่อนจะใช้จังหวะที่ยงกุกผละออกจากร่างกายของเขารีบถดตัวหนีอีกฝ่าย แต่มันช้าเกินไม่เมื่อมือหนาจับข้อเท้าของเขาเอาไว้ทัน ก่อนจะออกแรงลากเขาให้เข้ามาอยู่ใต้ร่างของอีกฝ่ายอีกครั้ง ยงกุกเท้าแขนทั้งสองข้างลงกับพื้นห้อง เพื่อกักขังร่างของอีกฝ่ายไม่ให้สามารถหนีไปไหนได้


                  “คิดว่าจะหนีไปไหนได้ กระโดดลงจากระเบียงหรือไง หึๆ” เสียงทุ้มว่าพลางหัวเราะในลำคอ ใบหน้าหล่อคมเคลื่อนลงไปใกล้ใบหน้าขาวจนปลายจมูกทั้งสองคนชนกัน หากแต่ฮิมชานกลับหันหน้าอีกฝ่ายราวกับรังเกียจกันมาก

                  “ถ้ามันจำเป็น ผมก็จะกระโดดลงไป” ฮิมชานตอบเสียงสั้นห้วน เขาคิดแบบที่พูดจริงๆ ตอนนี้เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อจะอยู่ให้ห่างจากบังยงกุก

                  “ไม่เอาน่า...กระโดดลงไปมีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ แข้งขาหักไปไม่คุ้มหรอกนะ...” ยงกุกหยุดพูดเสียเฉยๆ พร้อมกับไซร้จมูกไปบนแก้มขาว ก่อนจะส่งลิ้นออกมาไล้เลียแก้มนิ่มแล้วลากเรื่อยไปถึงใบหูขาว ขบกัดใบหูของอีกฝ่ายอย่างหยอกเย้า

                  “...สู้เอากับฉันไม่ได้หรอก ถึงจะเจ็บแต่ฉันรู้ว่าเธอชอบ” เสียงทุ้มกระซิบบอกอีกฝ่าย ก่อนจะผละออกห่างเมื่อฮิมชานหันหน้ามามองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจกับคำพูดของอีกฝ่าย

                  “คุณมันก็ไม่ต่างจากสัตว์หรอก...หึ ไม่สิ คุณมันยิ่งกว่านั้นอีก...สัตว์มันยังมีช่วงเวลาผสมพันธุ์ ไม่เหมือน...”



                  เพี๊ยะ!!

                  เส้นด้ายบางๆความอดทนของบังยงกุกขาดผึงลง พร้อมๆกับมือหนาที่ตวัดฟาดลงที่แก้มขาวจนใบหน้าของฮิมชานหันไปอีกทางตามแรงตบ เลือดสีแดงสดไหลย้อยจากมุมปากที่บวมเจ่ออยู่แล้วจนถึงปลายคาง

                  ใบหน้าขาวนิ่งค้างอยู่แบบนั้น ความเจ็บจนทำให้ผิวเนื้อเต้นตุบๆและร้อนผ่าวด้วยแรงตบที่รุนแรงเริ่มค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความชา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย

                  ฮิมชานตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่พอสมควร บังยงกุกไม่เคยทำแบบนี้กับเขา ถึงเขาจะดื้อหรือพยศขนาดไหน แต่อีกฝ่ายก็ไม่เคยตบตีเขามาก่อน


                  ‘ของเล่นฆ่าเวลา’ ซักวันนึงก็ต้องถูกเขี่ยทิ้ง

                  ...สงสัยวันนั้นมันคงใกล้จะมาถึงแล้วล่ะมั้ง คิมฮิมชาน...



                  “อื้อออ!! ออกไป!” ฮิมชานสะบัดหน้าหนีด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ๆเรียวลิ้นอุ่นของอีกฝ่ายก็สัมผัสที่ปลายคางที่มีเลือดติดอยู่ของเขาก่อนจะลากขึ้นมาจนถึงมุมปากที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงช้ำ

                  “ขัดขืนไปก็เท่านั้นแหละ...มาสนุกกันดีกว่า” พูดจบมือหนาก็จับเขาที่สันกรามของอีกฝ่าย ก่อนจะออกแรงบีบให้ฮิมชานยอมอ้าปากรับจูบของเขา


                  จูบที่รุนแรงถูกมอบให้โดยที่ฮิมชานไม่เต็มใจ ทำให้แผลที่มุมปากยิ่งปริแตกมากขึ้นจนทุกครั้งที่กลืนน้ำลาย ฮิมชานจะรับรู้ได้ถึงรสชาติคาวของเลือดทุกครั้งไป

                  เรียวลิ้นที่รุกรานเข้ามาในโพรงปากของฮิมชานอย่างเอาแต่ใจทำให้เขานึกอยากกัดมันให้อีกฝ่ายได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างที่เข้ารู้สึกบ้าง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะรู้ทันเพราะทันทีที่ฮิมชานคิดจะทำก็เป็นเวลาเดียวกับที่ยงกุกผละจูบออกพอดี


                  ยงกุกลุกขึ้นมานั่งคุกเข่าแล้วจัดการปลดกระดุมและรูดซิบกางเกงของตัวเองลง ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงฮิมชานให้ลุกขึ้นมานั่งจนใบหน้าขาวอยู่ระดับเดียวกับสิ่งบวมนูนที่ยังคงซ่อนอยู่ในชั้นในของเขาพอดี


                  ฮิมชานเงยหน้ามองคนที่มองกลับลงมาพร้อมส่งรอยยิ้มเย็นมาให้เขาด้วยสายตาที่ทั้งโกรธและเกลียดชัง

                  ...เกลียดที่บังยงกุกทำเหมือนเขาเป็นตุ๊กตาสนองตัณหา...

                  ...และโกรธตัวเองที่ไม่สามารถต่อกรอะไรอีกฝ่ายได้เลย...

                 
                  “เธอรู้หน้าที่ของตัวเองอยู่แล้วใช่มั้ย” ยงกุกว่าพลางเอื้อมมือข้างหนึ่งไปกดที่ท้ายทอยของฮิมชานเพื่อให้เคลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้กับส่วนนั้นของเขามากขึ้น แต่เด็กหนุ่มกลับขืนตัวเองเอาไว้ ดวงตาสวยมองกลับขึ้นไปด้วยสายตาแข็งกร้าว
                 
                  “หึ...งั้นก็เอามันสดๆเลยเป็นไง!”


                 
                  “อื้อ!!” เรียวปากที่บวมช้ำและเกรอะกรังไปด้วยเลือดที่เริ่มแห้งติดผิวหนังเม้มเข้าหากันเพื่อกลั้นเสียงร้อง เมื่อยงกุกทำอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ

                  ชายหนุ่มผลักฮิมชานลงนอนกับพื้น ก่อนจะจับขาขาวทั้งสองข้างของเขาแยกออกกว้างจนสามารถมองเห็นช่องทางแคบที่ด้านหลังได้ แท่งเนื้อที่ขยายขนาดจนแข็งเป็นลำแทรกตัวเข้าไปภายในร่างกายของฮิมชานรวดเร็วจนคนตัวขาวเผลอเกร็งตัวทำให้ช่องทางนั้นบีบรัดแกนกายของบังยงกุกจนแทบจะขยับเข้าไปไม่ได้


                  “โอ๊ย!!” เสียงร้องเพราะความเจ็บปวดที่กลั้นเอาไว้ไม่ไหวเมื่อยงกุกดึงดันแทรกตัวเข้ามาจนสุดลำยาว พร้อมกับเลือดสีแดงสดที่ไหลออกมาเพราะเนื้อเยื่ออ่อนนุ่มตรงช่องทางนั้นฉีกขาด

                  ฮิมชานพยายามหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะปกติที่สุด เพื่อผ่อนคลายร่างกายและลดความเจ็บปวดที่ร่างกายเบื้องล่าง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ช่วยอะไรเลย ตอนนี้ช่วงล่างของเขาเจ็บไปหมด ถ้าไม่นับครั้งแรกที่เคยมีอะไรกัน ครั้งนี้คงเป็นครั้งที่ฮิมชานรู้สึกเจ็บมากที่สุด


                  ...เจ็บทั้งกาย เจ็บทั้งใจ...


                  “หึ...เจ็บจนพูดไม่ออกเลยเหรอ...หรือว่าแกล้งสำออย...” สิ้นน้ำเสียงที่ทั้งเหยียดหยามและไร้ความเห็นใจนั้น บังยงกุกก็เริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆโดยไม่รอให้ฮิมชานได้ปรับตัวกับแกนกายที่เพิ่งแทรกตัวเข้ามา


                  ฟันคมขบกัดลงที่ริมฝีปากล่างของตัวเองอีกครั้งเพื่อกลั้นเสียงร้องไม่ให้หลุดลอดออกมา ไม่ว่าเสียงนั้นจะเป็นเสียงร้องเพราะความเจ็บปวด หรือเสียงครางเพราะความเสียวซ่านจากแรงเสียดสีของแท่งเนื้อร้อนนั้น ฮิมชานก็ไม่ยอมให้บังยงกุกได้ยินเสียงใดๆทั้งนั้น


                  “อย่ามองฉันอย่างนั้นสิ...อา...ครางหวานๆให้ฉันได้ยินหน่อย” เสียงทุ้มเอ่ยพลางขยับสะโพกเข้าออกเร็วขึ้น แรงขึ้นเหมือนแกล้งให้ฮิมชานต้องทำตามที่เขาบอก

                  “ไม่!!!” เด็กหนุ่มตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ก่อนจะรีบเม้มปากเน้นไม่ให้มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมา ฮิมชานกลั้นลมหายใจขาดเป็นห้วง เพราะความเจ็บปวดที่แล่นริ้วจากสะโพกขึ้นมาถึงสันหลัง เจ็บจนไม่มีเรี่ยวแรงจะขัดขืน

                  ...น่าสมเพชมั้ยล่ะ เป็นผู้ชายเหมือนกันแท้ๆ แต่เขากลับไม่สามารถสู้อะไรบังยงกุกได้เลย...


                 
                  บังยงกุกมองท่าทางของอีกฝ่ายด้วยแววตาเย้ยหยันกับความดื้อรั้นโง่ๆที่กำลังทำให้ตัวฮิมชานเองที่เป็นฝ่ายเจ็บตัว จังหวะการเคลื่อนไหวของสะโพกสอบเปลี่ยนเป็นช้าลงแต่กลับหนักหน่วงมากขึ้น เน้นย้ำทุกครั้งที่เคลื่อนสะโพกกระแทกเข้าไปภายในร่างกายของฮิมชาน ซึ่งมันทำให้คนตัวขาวทรมานมากกว่าจะรู้สึกเสียวซ่าน


                  “ทำไม...จะเก็บเสียงไว้ร้องให้ไอ้ยงฮวาฟังหรือไง” บังยงกุกยิ้มเย็นเมื่อเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่ตอบสนองกลับมา ดวงตาคู่สวยตวัดมองเขาด้วยความไม่พอใจทันทีที่เขาเอ่ยอ้างถึงบุคคลที่สาม

                  “ฉันพูดไม่ผิดสินะ...หัดทำตัวร่านตั้งแต่เมื่อไหร่”

                  ทุกคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของบังยงกุกมันช่างเหยียดหยามน้ำใจจนฮิมชานอยากจะร้องไห้ออกมา แต่เขารู้ว่าการทำแบบนั้นมันไม่สามารถเรียกร้องความเห็นใจจากอีกฝ่ายได้ กลับจะได้รับเสียงหัวเราะเยาะเย้ยกลับมาแทนมากกว่า



                  “อื้อ!...” ฮิมชานหลุดเสียงร้องออกมาเมื่อบังยงกุกเร่งจังหวะเข้าออกเร็วขึ้น แรงขึ้นจนตัวของเขาโยกไม่มาตามแรงกระแทกกระทั้นที่ไร้ความปรานี

                  “เอากับมันมากี่ครั้งแล้วล่ะ” มือหนาทั้งสองข้างยึดสะโพกขาวเอาไว้ พร้อมออกแรงกระแทกเข้าหาอีกฝ่ายจนสุดลำยาวโดยไม่ยี่หระกับเลือดที่ไหลออกมาจากตรงช่องทางเบื้องล่างนั้นมากขึ้นเรื่อยๆ

                  “อื้อ!!”

                  “ตอบ! ฉันถามว่าเธอกับไอ้ยงฮวานั่นมีอะไรกันมากี่ครั้งแล้ว!” ตะคอกถามเสียงดังขึ้นเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมตอบคำถาม ทั้งยังหันหน้าหนีเขาจนยงกุกต้องเอื้อมมือหนาข้างหนึ่งไปบีบสันกรามของฮิมชานบังคับให้หันกลับมาสบตากัน


                  ...หากแต่ฮิมชานเลือกที่จะเงียบ...


                 
                  “หึ...คิดจะดื้อกับฉันใช่มั้ย” เมื่อถูกขัดใจบังยงกุกจึงเร่งจังหวะโถมสะโพกเข้าหาสะโพกขาวให้เร็วมากขึ้นอีก แรงมากขึ้นอีกโดยไม่กลัวว่าฮิมชานจะขาดใจ

                  “โอ๊ยยย~” คนตัวขาวร้องออกมาเสียงแผ่ว แรงกระแทกรุนแรงทำให้ร่างขาวไหวไปมาตามแรงขยับจากช่วงร่างจนสั่นคลอนไปหมด



                  มือขาวกำเข้าหากันแน่นจนเล็บจิกลงไปบนเนื้อที่ฝ่ามือหวังจะระบายความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่ร่างกายช่วงล่างได้บ้าง เรียวปากบวมช้ำเม้มเข้าหากันแน่นเพื่อกลั้นไม่ให้มีเสียงใดๆเล็ดลอดออกมาให้อีกคนได้ยิน น้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ปิดสนิทและร่างกายที่เกร็งจะสั่นไปทั้งตัวบอกได้เป็นอย่างดีว่าฮิมชานทรมานกับการกระทำของอีกฝ่ายมากเพียงใด

                  ...ทรมานทั้งร่างกายที่ถูกกระทำราวกับเขาไม่ใช่มนุษย์...

                  ...ทรมานจิตใจที่ถูกอีกฝ่ายใช้คำพูดทั้งเหยียดหยามและดูแคลน...



                  เมื่อใกล้จะถึงสุดปลายทางของอารมณ์ มือหนาทั้งสองข้างบีบขยำเข้าที่สะโพกขาวจนเป็นรอยแดงตามแรงมือเพื่อระบายความเสี่ยวซ่านที่พุ่งทะยานมากขึ้นเรื่อยๆ

                   แล้วไม่นานการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็หยุดลง พร้อมกระตุกฉีดน้ำอุ่นร้อนเข้าไปภายในช่องทางของฮิมชานจนหมด แต่แม้ว่าทุกอย่างจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว...บังยงกุกก็ยังคงเสียบคาแกนกายร้อนไว้อยู่อย่างเดิม

                 

                  “ถ้าพอใจแล้วก็ออกไปจากตัวผมได้แล้ว” ฮิมชานพูดพลางหอบหายใจแรง มือขาวทั้งสองข้างยกขึ้นผลักไหล่ของคนที่กำลังโน้มตัวเข้ามาหาเขา

                  “ตอบคำถามของฉันมาก่อน” ชายหนุ่มถามคำถามเดิม แต่น้ำเสียงไม่แข็งกระด้างเหมือนครั้งแรก

                  บังยงกุกซุกใบหน้าลงกับต้นคอขาวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ เรียวปากหนากดจูบ ขบเม้มสร้างรอยแดงไปบนทุกตารางนิ้วของผิวขาวที่ริมฝีปากของเขาลากผ่าน

                  “ไม่...อื้ออ~” ฮิมชานตอบเสียงสั่นเครือ เมื่อแนวฟันคมของชายหนุ่มขบกัดลงบนยอดอกของเขาผ่านเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตสีอ่อนที่ฮิมชานสวมใส่อยู่

                  “ไม่เอาน่า...ตอบหน่อย ฉันอยากรู้” ยงกุกกระซิบถามทั้งที่ยังไม่เลิกเล่นสนุกกับเนินอกของเด็กหนุ่ม พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนลงไปสัมผัสกับปลายยอดของส่วนอ่อนไหวของฮิมชานที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย

                  “ไม่...อา...หยุดทำบ้าๆ...อึก...ซักที!!” เสียงครางหวิวหลุดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เมื่อยงกุกเริ่มสาวรูดแกนกายของเขาอย่างช้าๆ แต่หนักหน่วงจนฮิมชานแทบขาดใจ

                  ร่างขาวพยายามบิดตัวหนีสัมผัสของอีกฝ่าย แต่กลายเป็นว่ายิ่งเขาเคลื่อนไหวร่างกายมากเท่าไหร่ ช่องทางด้านหลังของเขาก็ยิ่งเสียดสีกับแท่งเนื้อที่ยังคงเสียบคาอยู่อย่างนั้น จนฮิมชานรู้สึกว่ามันเริ่มขยายตัวและแข็งขึ้นมาอีกครั้ง


                  “ตอบมาฮิมชาน! เธอก็รู้ว่าฉันไม่ชอบรอ” มือหนาเปลี่ยนจากขยับขึ้นลงเป็นบีบแรงๆเข้าที่แกนกายของฮิมชาน จนร่างขาวบิดเร่าด้วยความทรมาน

                  “ไม่...อื้อ!!”

                  “ไม่อะไร?”

                  “ไม่เคย...อื้อ...ไม่เคยแม้แต่ครั้ง ดะ....อื้ออออ!!!”

                  เมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจ ริมฝีปากสวยก็ถูกยงกุกประกบจูบลงมาอย่างรวดเร็วและเพราะไม่ทันตั้งตัวทำให้ฮิมชานเผลอรับเอาลิ้นชื้นที่แทรกเข้ามาเกี่ยวกระหวัดภายในโพรงปากของเขาอย่างร้อนแรงจนฮิมชานแทบจะหลอมละลายไปกับจูบนั้น


                  “อ๊า...เจ็บ...อื้อออ~...พอ...”

                  มือหนาที่กำลังขยับสาวรูดขึ้นลงที่แกนกายของร่างขาว พร้อมกับสะโพกที่ขยับเอาออกอยู่ที่ช่องทางเบื้องล่างอย่างรุนแรง ทำให้ฮิมชานทั้งร้องห้ามและส่งเสียงครางด้วยความสุขสมดังสลับกันมั่วไปหมด

                  มือขาวยกขึ้นจิกลงบนลำคอของบังยงกุกที่ยังคงคลอเคลียอยู่ที่ซอกคอของเขาเพื่อระบายความเจ็บแสบที่ปะปนอยู่กับความซาบซ่านจนฮิมชานรู้สึกว่าทุกอย่างขาวโพลนไปหมด

                 
                  การเคลื่อนไหวทั้งจากทางด้านหน้าและช่องทางด้านหลังที่เริ่มหนักหน่วงและรวดเร็วมากยิ่งขึ้นเมื่อทั้งสองใกล้จะถึงจุดสูงสุดของอารมณ์

                  และไม่นานการเคลื่อนไหวทุกอย่างก็สิ้นสุดลง ทั้งห้องมีเพียงเสียงหอบครางของทั้งสองคนดังประสานกันอย่างไม่เป็นจังหวะ

                 
                  บังยงกุกผละตัวออกไปอย่างรวดเร็วจนแกนกายเสียดสีกับบาดแผลของช่องทางที่บวมแดงจนฮิมชานหลุดร้องครางออกมาเพราะความเจ็บแสบแล่นขึ้นมาเล่นงานเขา อีกทั้งคราบน้ำสีขาวขุ่นมากมายที่ไหลออกมาก็มีสีแดงฉานของเลือดปะปนมากจนน่าตกใจ





กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=13 

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

[Fic B.A.P BANGXCHAN] BAD (Love Is So BAD) ::: 7

[Fic B.A.P BANGXCHAN]

BAD (Love Is So BAD) ::: 7 Everything what you like






             ฮิมชานผลักให้ยงกุกที่ทาบทับตัวเองเอาไว้เป็นฝ่ายนอนลงบนเตียงพร้อมกับย้ายตัวขึ้นมานั่งทับพอดีที่ส่วนกลางลำตัวของชายหนุ่มเอาไว้ทั้งที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังปรนเปรอจุมพิตให้กันไม่ห่าง


                  คนตัวขาวดูดเม้มริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายแรงบ้างเบาบ้างราวกับกำลังยั่วยวนอีกฝ่าย ก่อนจะส่งปลายลิ้นออกมาสัมผัสกับปลายลิ้นของอีกฝ่ายด้านนอกเรียวปาก พร้อมกับขยับสะโพกเสียดสีกับส่วนนั้นของบังยงกุกซึ่งกำลังค่อยๆตื่นตัวขึ้นตามการชักนำ


                  “จะยั่วกันให้ฉันขาดใจหรือไง...คนสวย”​ บังยงกุกเอ่ยถามเสียงแหบพร่าพลางเอื้อมมือไปกดที่สะโพกของอีกคน เพื่อให้หยุดขยับเสียดสีปลุกอารมณ์เขาไปมากกว่านี้

                  “แล้วถ้าผมไม่ยั่วคุณ...แล้วจะให้ผมไปยั่วใครดี...” ฮิมชานตั้งคำถามค้างเอาไว้เท่านั้น ดวงตาสวยเป็นประกายราวกับว่าเจ้าตัวกำลังเจอเรื่องสนุก อีกทั้งริมฝีปากสีสวยยังเผยรอยยิ้มที่ดูช่างยั่วยวนเหลือเกิน

                  “...พี่ยงฮวาดีมั้ย...” เอ่ยชื่อของบุคคลที่สามขึ้นมาเบาๆ พลางไล้มือไปตามรอยแยกของสาบเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มที่นอนอยู่ใต้ร่าง




                  “อื้อออ!!!”​ ฮิมชานร้องด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆมือหนาก็กระชากไหล่เขาให้ทรุดตัวลงไปหาอีกฝ่ายก่อนจะประกบจูบรุนแรง

                  “นั่งอยู่บนตัวฉันแบบนี้ ยังกล้าพูดชื่อคนอื่นอีกเหรอ หืมมม~ อยากเจ็บตัวหรือไง” ยงกุกถามทั้งที่ยังคลอเคลียเรียวปากกับริมฝีปากสีสวยไม่ยอมห่าง
                 


                  มือหนาก็เลื่อนมาปลดเข็มขัดกับกระดุมและซิปกางเกงของฮิมชาน ซึ่งเจ้าตัวก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีด้วยการยกสะโพกขึ้น ก่อนจะเป็นฝ่ายถอดทั้งกางเกงและชั้นในออกเอง



                  “คุณหึงผมกับพี่ยงฮวาเหรอ” ใบหน้าขาวก้มลงพลางคลอเคลียแก้มขาวกับแก้มของอีกคน สะโพกเปลือยก็ขยับขึ้นถูเบาๆกับกางเกงผ้าเนื้อดีตรงส่วนกลางลำตัวของยงกุก จนฮิมชานรู้สึกได้ถึงความคับแน่นภายในกางเกงของอีกฝ่ายที่เริ่มนูนขึ้นมา
           
                  “หึ...ฉันรู้ว่าเธอรู้คำตอบดี...”
  


                  ...เขาทั้งหึง ทั้งหวงฮิมชานจนแทบจะยิงไอ้จองยงฮวานั่นทิ้งตอนนั้นเลยด้วยซ้ำ ถ้ายองแจไม่ห้ามเอาไว้ซะก่อน...

   

              
                  “อื้อออ~ ตอบผมก่อน...” ฮิมชานผละจูบออก พลางจับใบหน้าของอีกคนให้ออกห่างจากหน้าของตัวเอง ดวงตาคู่สวยส่อแววซุกซนซะจนยงกุกอยากจะฟัดให้ช้ำไปทั้งตัว
                  “ไม่” ชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆ พร้อมกับจับคนที่นั่งทับท่อนล่างของเขาให้เป็นฝ่ายนอนลงก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายใช้ร่างกายคร่อมฮิมชานเอาไว้
                  “ถ้าไม่ตอบ ก็ปล่อย...อื้อออ!!!” เด็กเอาแต่ใจเริ่มแผลงฤทธิ์ทันทีเมื่อไม่ได้คำตอบที่ต้องการ




                  ...เขาแค่อยากให้ยงกุกแสดงออกว่าต้องการเขาบ้าง ก็เท่านั้นเอง...แม้ว่าความต้องการนั้นจะเกิดจากร่างกาย ไม่ใช่เกิดจากความรักก็ตาม...





                  เรียวปากหนากดจูบลงปิดปากอีกฝ่าย พร้อมลิ้นนุ่มหยุ่นถูกส่งเข้าไปในริมฝีปากสีสวย ยงกุกมอบจุมพิตแสนร้อนแรงให้เด็กช่างพยศจนลูกแมวที่ทำท่าจะขู่ใส่เขาเมื่อครู่อ่อนระทวยลงจนกลายเป็นลูกแมวน้อยเชื่องๆอยู่ใต้ร่างกายของเขา

                  “หึ...สายไปแล้วคนสวย”




                  ...ยั่วกันขนาดนี้ เขาไม่ปล่อยให้ฮิมชานหนีออกจากห้องเขาไปแน่นอน...





                  เรียวปากหนาที่ผละจากริมฝีปากสีสวยของคนใต้ร่าง กดจูบลงบนแก้มขาวหนักๆก่อนจะเลื่อนไปขบเบาๆเข้าที่ใบหูที่เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ เพราะอารมณ์รักที่ถูกยงกุกปลุกเร้าจากการใช้หัวเข่าเสียดสีไปที่ส่วนล่างอันเปลือยเปล่า


                  “อ๊าาา~ คุณ...ผม...” ฮิมชานครางหวิวคล้ายจะขาดใจ พร้อมกับปลายเล็บที่จิกลงบนต้นแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่าย เมื่อยงกุกกดหัวเข่าลงที่ส่วนกลางลำตัวของเขาหนักขึ้น อีกทั้งมือหนายังสอดเข้าไปบดขยี้ยอดอกภายในเสื้อเชิ้ตของเขา


                  “หืมมม~ ว่าไงครับคนสวย...” เสียงทุ้มกระซิบถามที่ข้างหู ก่อนจะซุกไซร้จูบลงที่ซอกคอขาวไล้เลื่อยลงมาที่แผ่นอกที่กระเพื่อมขึ้นลงเร็วแรงตามแรงอารมณ์ที่กำลังถูกปลุกปั่น




                  “ผม...ไม่ไหว...อ๊าาา~”





                  ริมฝีปากหนาจูบลงที่แผ่นอกขาว ขบกัดเข้าที่ยอดอกของอีกฝ่ายแรงๆผ่านเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ต ฮิมชานแอ่นอกขึ้นรับสัมผัสที่แม้จะเจ็บแต่ก็ทำให้รู้สึกดีไปด้วยในคราวเดียวกัน มือขาวโผเข้ากอดเข้าที่ศีรษะของอีกฝ่ายราวกับต้องการให้ยงกุกกระทำกับเม็ดไตที่หน้าอกของตัวเองให้มากขึ้นอีก พร้อมกับเสียดสีส่วนกลางลำตัวเข้ากับหัวเข่าของอีกฝ่าย



                  “อะไรกันแค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ...เมื่อกี้ยังยั่วฉันอยู่เลย” ยงกุกเคลื่อนตัวลงไปเรื่อยๆจนใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กับส่วนกลางลำตัวของอีกฝ่ายไม่ถึงคืบ



                  “อ๊ะ!! อื้อออ~” ฮิมชานครางกระเส่าด้วยทั้งเสียวซ่านจากริมฝีปากหนาที่กำลังกลืนกินส่วนนั้นของเขาเข้าไปและจากนิ้วยาวที่สอดเข้าไปภายในร่างกายของเขา

                  คนตัวขาวเกร็งไปทั้งตัวเมื่อบังยงกุกเร่งจังหวะขยับเข้าออกของนิ้วเรียวมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับเรียวปากที่รูดสาวแท่งเนื้อสีสดเร็วขึ้นจนมือขาวต้องจิกลงที่ผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

                 


                 

                  “อ๊าา!! คุณ...อื้อ!!” ความเสียวซ่านจากส่วนกลางลำตัวที่แข็งขืนซึ่งเสียดสีอยู่ภายในร่างกายของคนตัวขาว ทำให้เด็กหนุ่มร้องไม่เป็นภาษา ทั้งสมองยังขาวโพลนไปหมด

                  ยิ่งยงกุกเร่งจังหวะมากเท่าไหร่ เล็บแหลมจากมือขาวก็ยิ่งจิกลงที่แผ่นหลังของชายหนุ่มแรงมากขึ้น หากแต่ตอนนี้ความต้องการในกันและกันนั้นมันมากเสียจนเข้ามาแทนที่ความเจ็บปวดทางร่างกายไปเสียแล้ว

                  “อื้อ!!! จูบ...อ๊าา~ จูบผม...” เสียงหวานครางแผ่วพลางโน้มลำคออีกคนลงมา คลอเคลียริมฝีปากของตัวเองกับเรียวปากของอีกคน ราวกับลูกแมวกำลังอ้อนให้เจ้าของมอบความรักให้ ซึ่งบังยงกุกก็ไม่คิดจะขัดใจคนใต้ร่าง ริมฝีปากหนาประกบจูบลงไป มอบจุมพิตแสนร้อนแรงจนฮิมชานแทบจะหลอมละลาย






                  “หันหลังสิ ที่รัก” เสียงทุ้มกระซิบบอกอีกฝ่ายที่ข้างหู พลางถอดถอนส่วนนั้นออกจากร่างกายของเด็กหนุ่ม

                  “ผมไม่ใช่ที่รักของคุณ” ถึงจะบอกออกไปแบบนั้น แต่ฮิมชานก็ยอมพลิกตัวนอนคว่ำหน้าลงอย่างที่อีกฝ่ายต้องการ สะโพกขาวหยัดขึ้นสูงเพื่ออำนวยความสะดวกให้อีกฝ่าย
                 

                  “หึ...ใครที่ ‘ทำ’ กับฉันอยู่ตอนนี้ก็คือ ‘ที่รัก’ ของฉัน” เสียงทุ้มกระซิบบอกพลางกดจูบลงที่ท้ายทอยขาว


                  “อื้อ!! ผมเจ็บ...ใส่มันเข้ามาซักที ผมจะไม่ไหวแล้ว” ฮิมชานร้องท้วงเบาๆเมื่อถูกอีกฝ่ายกัดที่หัวไหล่ขาว ก่อนจะเร่งให้อีกคนทำในสิ่งที่ค้างอยู่จากเมื่อครู่





                  “อ๊าาาา~ คุณ...อื้อ!! เร็ว อ๊าาา~ เร็วอีก...” คนตัวขาวร้องสั่งคนที่อยู่ด้านหลังเสียงกระเส่า พลางขยับสะโพกรับการเคลื่อนไหวของยงกุก
                 
                  ชายหนุ่มโน้มตัวลงมาทาบทับร่างขาวที่นอนคว่ำเอาหน้าซุกลงกับพื้นเตียง เรียวปากหนากดจูบไล้ไปที่ต้นคอเรื่อยมาถึงซอกหูที่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเพราะแรงอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุด


                 
                  “ไม่เจ็บหรือไง หืมม~” เสียงทุ้มกระซิบถามเบาๆ ก่อนจะขบใบหูของอีกฝ่ายเล่น

                  “ไม่ อ๊าาา~ ผม...ผมต้องการ อื้ออออ!!! คุณ” คำตอบที่ได้รับกลับมา ช่างน่าพอใจเหลือเกินสำหรับบังยงกุก ชายหนุ่มยกยิ้มด้วยความพอใจก่อนจะขยับสะโพกเข้าหาอีกฝ่ายเร็วขึ้น แรงขึ้นตามคำขอ




                  “หึ...พูดแบบนี้ จะมาหาว่าฉันรุนแรงกับเธอไม่ได้นะ ที่รัก...”



กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://writer.dek-d.com/untitle_reila/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=9

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

[Fic B.A.P BANGXCHAN] BAD (Love Is So BAD) ::: 3


[Fic B.A.P BANGXCHAN]

BAD (Love Is So BAD) ::: 3 Punish




                  แม้ว่าฮิมชานจะพยายามดิ้นขัดขืนแต่กางเกงยีนส์ตัวสวยพร้อมกางเกงชั้นในหลุดออกจากขาทั้งสองข้างของเขาด้วยฝีมือของยงกุกได้อย่างไม่อยากเย็นเท่าไหร่นัก ฝ่ามือหนาลูบไล้เรียวขาขาวกระจ่างตาตั้งแต่น่องขึ้นไปเรื่อยจนถึงต้นขาขาว ยงกุกบีบแค้นเนื้อนิ่มลื่นมือนั้นอย่างเพลินมือ พร้อมส่งรอยยิ้มน่าขนลุกให้ฮิมชานที่พยายามดิ้นขัดขืน

                 
                  “อื้อ!! อื้ม!! อ๊ะ!!! อย่า!!! อ๊ะ!!”
                                   
                  เรียวปากสีสดถูกประจบจูบกระทันหันจนฮิมชานไม่ทันตั้งตัว พร้อมกับมือหนาที่เลื่อนขึ้นมาลูบไล้ส่วนกลางลำตัวของเขาเอาไว้ แม้ว่าจะร้องห้าม หรือดิ้นขัดขืนยังไงฝ่ามือร้อนๆนั้นก็ยังไม่ยอมผละออกจากส่วนอ่อนไหวนั้น

                  “อะ...เอามือ...ออกไป...” คนตัวขาวว่าพลางพยายามใช้มือทั้งสองข้างปัดมือหนาให้ออกไปจากส่วนนั้น

                 
                  มือหนาปล่อยมือออกจากคอขาวแล้วเลื่อนลงไปกดย้ำรอบๆปากทางแคบทางด้านหลัง พร้อมกับมืออีกข้างก็ยังรูดสาวส่วนกลางลำตัวที่เริ่มชุ่มฉ่ำมากขึ้นเรื่อยๆ

                 
                  “รู้สึกดีหรือเปล่า...หืม...ลูกแมวของฉัน” ยงกุกโน้มหน้าลงมาพูดกระซิบชิดริมฝีปากสวยที่ทั้งร้องครางและร้องห้ามปรามเขาสับสนไปหมด ก่อนจะมอบจุมพิตร้อนแรงให้อีกฝ่าย


                  “อ๊าาา!! อย่า อ๊ะ!!” ฮิมชานสะบัดหน้าออกจากจุมพิตของคนเอาแต่ใจ พร้อมร้องห้ามเสียงสั่นเมื่ออยู่ๆเขาก็รู้สึกถึงความร้อนของแท่งเนื้อแข็งขึงที่กดลงตรงปากทางคับแคบของเขา


                  “หึๆ...เธอก็รู้ว่าห้ามไปก็ไม่ได้ผล...เพราะงั้นมาสนุกกันดีกว่าน่า”


                  “โอ๊ย!!! เจ็บ...เอาออกไป...อ๊ะ!!”
                  มือขาวที่เคยพยายามปัดมือหนาให้หลุดจากการกอบกุมส่วนกลางลำตัวของตัวเอง เปลี่ยนมายกขึ้นแล้วจิกลงที่ลำแขนแกร่งทั้งสองข้างเพื่อระบายความเจ็บจากช่วงล่าง เล็บแหลมจิกลงบนเนื้อผ้าของเสื้อเชิ้ตอย่างไม่กลัวว่าเสื้อราคาแพงนั้นจะขาด

                  ขาทั้งสองข้างพยายามถีบตัวเองให้ถอยหนีการรุกล้ำของอีกฝ่าย แต่สะโพกขาวกลับถูกมือหนาจับยึดเอาไว้ไม่ให้ขยับไปไหน ก่อนจะพยายามดันส่วนที่ทั้งใหญ่และร้อนนั้นให้เข้ามาในร่างกายขาวโดยไม่ได้มีการเตรียมพร้อม หรือปลุกเร้าอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

                 
                  ความเจ็บปวดที่แล่นริ้วเข้ามารวดเร็วและรุนแรงจนฮิมชานไม่ทันตั้งตัว ทำให้เด็กหนุ่มทำได้เพียงกดปลายเล็บลงที่แขนทั้งสองข้างของยงกุกแรงขึ้นอีกเพื่อระบายความเจ็บปวด ฟันขาวก็ขบเข้าที่ริมฝีปากล่างจนเลือดเริ่มไหลซึมออกมา ร่างกายที่เกร็งโดยอัตโนมัติยิ่งทำให้ความเจ็บปวดเพิ่มมากขึ้น

                 
                  “อะ...อื้อ! โอ๊ย!” เสียงหวานร้องออกมาอีกเมื่ออีกฝ่ายเริ่มขยับสะโพกเข้าออกช้าๆ

                  “ฮึก!! อะ...โอ๊ย!...คุณ...ผมเจ็บ อ๊า!” จากจังหวะที่เชื่องช้าแปรเปลี่ยนเป็นเร็ว และรุนแรงจนเด็กหนุ่มรู้สึกราวกับว่าร่างกายของเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ


                  ใบหน้าขาวที่ซีดลงเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดเหงื่อมากมายที่ซึมออกมา มือขาวที่เคยจิกลงบนเสื้อเชิ้ตราคาแพงกลับตกลงมาตามแรงโน้มถ่วง...แม้แต่จะยกมือยังลำบาก...


                 
                  “โอ้!...เลือดไหลซะแล้ว” อยู่ๆคนที่เอาแต่ทำตามใจตัวเองก็หยุดเคลื่อนไหว แล้วโน้มตัวลงมาจนจมูกของทั้งสองคนชนกัน รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นที่มุมปากสีเข้มราวกับกำลังสะใจที่เห็นสัตว์เลี้ยงสุดแสนเอาแต่ใจของตัวเองอยู่ในสภาพน่าสมเพชเช่นนี้


                 
                   
                  ฮิมชานยกมือขึ้นกอดเกี่ยวลำคอของอีกคนเอาไว้ ก่อนจะฝืนตัวเองขยับลุกขึ้นให้ริมฝีปากบางอยู่ชิดริมหูของยงกุก
                 

                  “คุณมันโรคจิต” เสียงแหบพร่ากระซิบคำพูดที่รู้ดีว่าผลที่จะได้รับต่อไปคืออะไร แต่ขอให้เขาได้ทำอะไรให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำน้ำใจบ้าง แม้เพียงเล็กน้อยก็ยังดี...แม้ว่าร่างกายจะสู้ไม่ได้ แต่ขอแค่ให้เขาได้ด่าทอคนเห็นแก่ตัวคนนี้บ้างเถอะ


                  “หึ...โดนขนาดนี้ยังปากเก่งอีกนะ” ใบหน้าสวยถูกผละออกมาให้ทั้งคู่เผชิญหน้ากัน เสียงทุ้มที่พูดลอดไรฟันนั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจและความโกรธเคืองจนฮิมชานรู้ดีว่าเขากำลังจะโดนอะไร...


                  ขาขาวข้างหนึ่งถูกยกขึ้นพาดบ่า พร้อมสะโพกสอบที่กระแทกแรงๆเข้ามาในร่างกายบอบบางไร้เรี่ยวแรง จนฮิมชานกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เลือดสดๆสีแดงฉานที่ไหลออกมาไม่สามารถเรียกความเห็นใจจากบังยงกุกได้แม้แต่น้อย

                 
                  “อึก!!! โอ๊ย!! ไอ้ชั่ว!!! อึก!!!” สิ้นคำพูดสะโพกสอบก็ส่งแรงกระแทกเข้ามามากขึ้น แรงขึ้น เร็วขึ้น จนฮิมชานหายใจไม่ทัน



กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ได้ที่นี่ฮะ >>> http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1190131&chapter=4